1. สาเหตุใดที่ทำให้ธุรกิจ Ecommerce ในประเทศไทย ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร
ตอบ.จากในมุมองของกระผมเห็นว่าสาเหตุที่ธุรกิจ E-commerce ในประเทศไทย ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เป็นเพราะนิสัยของคนไทยเป็นส่วนหลัก รองลงมาก็คือด้านเทคโนโลยีที่ยังเข้าถึงไม่ครอบคลุมประชากรทั้งหมด อีกทั้งด้านความรู้พื้นฐานของประชาชนะดับพื้นที่ยังไม่ค่อยเข้าถึงเทคโนโลยีด้าน E-commerce สักเท่าไร อีกทั้งยังมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้การเติบโตของ E-commerce ในไทยยังเป็นเช่นนี้ ซึ่งจากประเด็นเหล่านี้สามารถแยกแยะชี้แจงเพื่อความเข้าใจได้ดังนี้
1.1 จากลักษณะนิสัยของคนไทย ที่ชอบความสะดวกสบาย รวดเร็ว และค่อนข้างเลือกในสินค้าอย่างถี่ถ้วน จึงทำให้คนไทยส่วนใหญ่หันที่จะมาเลือกซื้อสินค้าที่อยู่ใกล้ตนและยังร้านสะดวกซื้อใกล้บ้าน หรือห้างร้านที่เป็นตัวแทนจำหน่ายใกล้บ้านของตนโดยเชื่อว่าจะสะดวกในกรณีมีปัญหาอย่างใด และสามารถเลือกดูคุณภาพสินค้านั้นได้ ซึ่งจากประเด็นนี้จะทำให้เห็นได้ว่าบทบาทการให้ความสนใจใน E-commerceจะค่อนข้างน้อย ซึ่งผู้บริโภคหลักที่ให้ความสนใจใน E-commerce นั้นจะเป็นเพียงห้างร้านขนาดปานกลางถึงใหญ่เท่านั้นที่ให้ความสนใจ
1.2 ด้วยลักษณะภูมิประเทศด้านการตลาดที่เป็นอยู่ ซึ่งบ้านเรามีความสะดวกในการออกไปซื้อสินค้าต่างๆ เป็นอย่างมาก การออกไปซื้อสินค้าต่างๆ สามารถเดินทางไม่นาน โดยจากการสำรวจร้านค้าและห้างต่างๆในประเทศไทยนั้นมีมากมายภายใน 1 อำเภอ อาจจะมีหลายแห่ง ทั้ง Big C, Carfu, Lotus ทั้งห้างประจำท้องถิ่น หรือ 7-Eleven ก็มีมากมาย ซึ่งต่างจากประเทศที่มีการใช้ E-commerce สูง เนื่องด้วย ห้างร้านต่างๆของเขานั้นอยู่ไกลกันมาก การซื้อสินค้าออนไลน์ จึงสะดวกกว่า การเดินทางไปซื้อด้วยตัวเอง ซึ่งจากประเด็นนี้ก็จะทำให้สามารถเห็นข้อแตกต่างได้จัดเจนอีกส่วนหนึ่ง
1.3 ด้านความเชื่อมั่นของคนไทย และความสะดวกสบายในการชำระเงิน คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ให้ความเชื่อถือในการสั่งซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ E-commerce เพราะนิสัยคนไทยเป็นคนขี้ระแวงและกลัว ทำให้ขาดความเชื่อมั่นในการสั่งซื้อสินค้าผ่าน E-commerce อาจจะมองรวมไปถึงการออกแบบของ E-commerce ของคนไทยบางแห่งยังไม่น่าเชื่อถือทำให้มุมมองทัศนคติของผู้บริโภคนั้นยังไม่ไว้วางใจในระบบ E-commerce ผู้บริโภคจึงหันมาซื้อสินค้าที่พบปะผู้ขายซึ่งให้ความมั่นใจแก่เขามากกว่า ตลอดจนการที่คนไทยส่วนน้อยจะมีความรู้เรื่องการ การชำระเงินผ่านระบบอินเทอร์เน็ตหรือการชำระเงินออนไลน์ผ่านทางระบบต่างๆ ซึ่งผู้บริโภคส่วนใหญ่นั้นอาจเข้ามาเยี่ยมชมเลือกดูสินค้า แล้วอยากซื้อ แต่ไม่รู้จะชำระเงินอย่างไร ซึ่งทำให้เกิดการปิดกั้นด้านการซื้อสินค้าลงไป
1.4 ด้านการสร้างเว็บไซต์ที่ยังไม่มุ่งต่อความต้องการของผู้บริโภคที่แท้จริง ซึ่งเว็บไซต์ E-commerce ในไทยส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นความสวยงามน่าเข้าชมเข้าซื้อ แต่ขาดข้อคำนึงหลักคือ ลูกค้านั้นไม่ได้ต้องการเข้ามาดูเว็บไซต์ที่สวยงามนัก เพียงแต่มองหาสินค้าที่ต้องการและสามารถอำนวยความสะดวกในการซื้อสินค้าให้เขาได้อย่างง่ายและรวดเร็วเท่านั้น ตลอดจนดูเป็นมาตรฐานน่าเชื่อถือเท่านั้น ซึ่งรวมช่องทางการติดต่อที่ให้ลูกค้าส่งข้อมูลเพื่อสื่อสารกับผู้ให้บริการไปให้กลับเป็นแหล่งที่ยังไม่น่าเชื่อถือในมุมมองของลูกค้า เช่น การใช้เมล์ที่เป็นฟรีเมล์ ซึ่งในมุมมองของลูกค้านั้นอาจมองว่ายังไม่น่าเชื่อถือว่าเป็นของผู้ให้บริการจริงหรือไม่
1.5 ด้านการทำประชาสัมพันธ์หรือ การโปรโมทเว็บ ซึ่งการทำเว็บไซต์เป็นที่รู้จักติดหูแก่ผู้บริโภคนั้นทำได้ยาก ผู้ดำเนินการจะต้องหาวิธีการอย่างไรให้เว็บไซต์เป็นที่รู้จักแพร่หลาย ซึ่งในทัศนคติของคนไทยจะติดอยู่เพียงที่เดิมที่ตนเคยเข้าใช้บริการเท่านั้นจึงเป็นการยากที่ที่เว็บไซต์ E-commerce ใหม่ๆ จะเข้ามามีบทบาทร่วมทางการตลาด เจ้าของเว็บไซต์ต้องหาวิธีโปรโมทให้ติดอันดับใน Search Engine ให้ได้ โดยชั้นนำของโลกอย่าง Google
1.6 การวางตลาดที่ยังไม่กำหนดตำแหน่งที่แน่ชัด ซึ่งผู้ค้าส่วนใหญ่จะให้ความหวังในการขายสินค้าได้ทั่วทุกที่อาจทั่วโลก ทำให้ไม่คำนึงถึงตลาดโดยตรงไม่มุ่งเน้นไปที่ตลาดโดยตรง ไม่เจาะความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่แท้จริงทำให้สินค้าประเภทที่ดำเนิน E-commerce นั้นไม่สามารถเกิดการโอนย้ายสินค้า
1.7 ด้านการส่งเสริมของภาครัฐที่ยังไม่มีการส่งเสริมให้ผู้บริโภคเล็งเห็นถึงจุดมุ่งหมาย และผลตอบแทนจากการใช้ E-commerce ในด้านต่างๆ ซึ่งทำให้การเจริญเติบโตของ E-commerce ยังไม่ดีเท่าที่ควร อันเนื่องมาจากประชาชนในประเทศขาดการแนะนำ เชิญชวน ชักจูง จากภาครัฐที่เป็นภาคหลักในการบริหาร ชี้แนวทางประเทศให้เป็นไปในทิศทางต่างๆ นั่นเอง
_______________________________________________________________________
2. ถ้าอยากจะให้ระบบการขายสินค้าในรูปแบบ E-commerce ในประเทศไทยประสบความสำเร็จ นักศึกษาคิดว่าควรจะต้องประกอบด้วยปัจจัยใดบ้าง
ตอบ.การที่ระบบการขายสินค้าในรูปแบบ E-commerce ในประเทศไทยประสบความสำเร็จและมีการเจริญเติบโตได้นั้นมีปัจจัยหลายอย่างเกี่ยวข้องที่เป็นตัวกำหนด ทั้งด้านการตลาด ความทั่วถึงเทคโนโลยี ความรู้ความสามารถ ตลอดจนทัศนคติค่านิยมของคนไทย ซึ่งสามารถแยกปัจจัยต่างๆ ที่เป็นส่วนประกอบได้ดังนี้
2.1 การมองหาช่องทางตลาดของ E-commerce เป็นการเล็งเห็นถึงช่องทางทางการตลาดและรีบตัดสินใจนำมาดำเนินการเพื่อสร้างจุดได้เปรียบทางการแข่งขันบนระบบ E-commerce ตลอดจนสร้างความน่าสนใจให้กับผู้บริโภคให้หันมาสนใจในมุมมองใหม่นั้นโดยคิดอย่างรอบคอบและมองให้เห็นถึงอนาคต การคาดการณ์ที่อาศัยปัจจัยแปรต่างๆ ที่มีผลต่อระบบ
2.2 การสร้างมุมมองที่อุดช่องโหว่ของความไม่เชื่อมั่นและความกลัวของคนไทย ในการใช้บริการ E-commerce ซึ่งผู้ดำเนินต้องมีแนวทางในการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคในการใช้บริการ E-commerce ให้เชื่อในความปลอดภัย เห็นถึงข้อดีต่างๆ ที่ได้จากการใช้งาน สร้างตัวจูงใจในการใช้บริการ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ การที่ได้สินค้าในราคาที่ถูกกว่าและมีคุณภาพ อันเนื่องมาจากการติดต่อโดยตรงไม่ผ่านคนกลางใดๆ
2.3 การมองหาถึงช่องทางที่อำนวยความสะดวกและปลอดภัยให้แก่ลูกค้ามากที่สุด ซึ่งเป็นการกล่าวในด้านการทำธุรกรรมต่างๆ ซึ่งการที่จะทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่เชื่อถือนั้นต้องอาศัยการออกแบบที่รัดกุม น่าเชื่อถือ และที่สำคัญต้องอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการให้มากที่สุด ตลอดจนการมองหาช่องทางหรือการเปิดช่องทางที่หลากหลายให้ผู้บริโภคได้เลือกชำระเงินได้อย่างสะดวกมากที่สุด มีตัวเลือกให้หลายเส้นทางที่สุด และคำนึงถึงความปลอดภัยร่วมด้วย
2.4 การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพทั้งด้านการลงทุนและข้อมูลเนื้อหาที่เสนอ ตลอดจนการติดต่อผสานงานกับส่วนต่างๆ ที่ใช้ในการดำเนินงาน เช่นด้านการขนส่ง ด้านการชำระเงิน ด้านการให้บริการแก่ลูกค้า อีกทั้งส่วนสำคัญคือการสร้างข้อมูลที่เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ อันเป็นการสร้างฐานความเชื่อมั่นทางการตลาดเป็นสำคัญนั่นเอง
2.5 การสร้างพันธมิตรทางธุรกิจที่มีส่วนช่วยระหว่างกัน ซึ่งการที่เราจะดำเนินธุรกิจ E-commerce เพียงผู้เดียวคงจะเป็นการสำเร็จตามเป้าหมายที่ยาก การมีพันธมิตรทางการค้านับเป็นส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการสร้างตลาดให้เป็นที่รู้จักแก่ผู้บริโภค ตลอดจนการสร้างโครงข่ายความช่วยเหลือระหว่างกันเป็นสำคัญ อาทิการแลกแบรนเนอร์ การฝากลิงค์ การแบ่งปันพื้นที่หน้าเว็บไซต์ระหว่างกัน ซึ่งเป็นหลักการสร้างเส้นทางในการเข้าถึงระหว่างกันนอกจากนั้นยังเป็นส่วนช่วยในการส่งเสริมทางการตลาดเป็นอย่างดี ทำให้ผู้บริโภคมองหาสินค้าอื่นอีก นอกจากการมองจากแหล่งๆ เดียว ทำให้เว็บไซต์ของเราเป็นศูนย์กลางที่ผู้บริโภคเลือกเข้ามาใช้บริการ อันมีผลพลอยได้หลายประการ นอกจากการขายสินค้าเท่านั้น
ซึ่งโดยสรุปแล้วการที่จะขายสินค้าในรูปแบบ E-commerce ในประเทศไทยประสบความสำเร็จนั้นจะต้องประกอบด้วยปัจจัยหลักคือการมองเห็นช่องทางทางการตลาดเป็นสำคัญ การมองหาถึงความต้องการและไม่ต้องการของผู้บริโภค ตลอดจนการสร้างพันธมิตรความร่วมมือในการดำเนินธุรกิจ E-commerce เป็นส่วนช่วยระหว่างกันอันเป็นส่วนสำคัญยิ่งที่จะทำให้การดำเนิน E-commerce ของไทยประสบความสำเร็จอย่างก้าวหน้าและมั่นคงตลอดไป
----------------------------- ขอบคุณในข้อเสนอแนะและความคิดเห็นครับ --------------------------------
กรวิทย์ ปานสวย